โดยเซาะเปีย
คณะกรรมมาธิการการค้า เกาหลี ตัดสินใจปรับ 15 บริษัทเพลงเป็นเงิน 19.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กรณีเรียกเก็บเงินจากผลิตภัณฑ์และบริการ โดยการปรับดังกล่าวจะนำไปฟ้องร้องสู่ศาลในคดีอาญาอีกด้วย
เมื่อวัน ที่ 28 กุมภาพันธ์ คณะกรรมาธิการการค้า แถลงว่า จากการประชุมเมื่อวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เราตัดสินใจที่จะดำเนินการกับ 15 เว็บไซต์เพลงออนไลน์ ได้แก่ SK Telecom, Loen Entertainment, KT, KT Music, Mnet Media, Neowiz Bugs, Sony Music Entertainment Korea, Universal Music, Warner Music Korea, Yejun Media, Pony Canyon Korea, SM Entertainment, SBS Contents Hub, King Pin Entertainment, Direct Media
โดยค่าปรับนั้นมีดังนี้
SK Telecom ถูกปรับ 1.96 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Loen Entertainment ถูกปรับ 9.69ล้านเหรียญสหรัฐฯ
KT ถูกปรับ 811,000 เหรียญสหรัฐฯ
KT Music ถูกปรับ 1.16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Mnet Media ถูกปรับ 1.98 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Neowiz Bugs ถูกปรับ 1.11 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Sony Music Entertainment ถูกปรับ 1.19ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Universal Music ถูกปรับ 814,000 เหรียญสหรัฐฯ
Warner Music Korea ถูกปรับ 96,000 เหรียญสหรัฐฯ
โดย ที่ SK Telecom, Loen Entertainment, KT Music, Mnet Media, and Neowiz Bugs จะถูกดำเนินคดีอาญาด้วย ส่วนการฟ้องร้อง ชิน วอน ซู ซีอีโอ Loen Entertainment , คิม มิน วุก ซีอีโอ KT Music และ คิม ซึง ซู ซีอีโอ Mnet Media จะดำเนินคดีแยกกันออกมา
นอกจากนี้ ทางกรรมาธิการฯ ตัดสินใจที่จะระงับการตลาดของกลุ่มบริษัทที่ไม่มีลิขสิทธิ์ในการดาวน์โหลด เพลง (Non-DRM หรือ Digital Rights Management) โดยย้อนหลังไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2008 ล่าสุด อนุญาตให้บริษัทดาวน์โหลดเพลงถูกกฎหมายดำเนินการด้านการตลาดได้ โดยที่บริษัทให้ดาวน์โหลดที่ผิดกฎหมายเปิดให้ดาวน์โหลดจำนวนมหาศาล จึงควรระงับให้หยุดการจำหน่ายทันที โดยมีรายงานว่า ล่าสุด 13 บริษัทด้านบนขณะนี้ได้ยกเลิกการอนุญาตให้ดาวน์โหลดแล้ว
ตัวแทน ของกรรมาธิการฯ กล่าวว่า เพื่อเป็นการปิดกั้นบริษัทขนาดเล็กไม่ให้เข้าถึง บริษัทเหล่านี้จึงมาแสวงหาผลกำไรด้วยการตั้งราคาการดาวน์โหลดกันเอง โดยยอมทำตามราคาที่ตกลงกันไว้ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้บริโภคและธุรกิจอุตสาหกรรมของเค้าเอง ทั้งๆ ที่การตั้งราคาควรเป็นไปอย่างเท่าเทียมและยุติธรรม เมื่อพวกเค้าสร้างอุตสาหกรรมเพลงก็เชื่อว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้จะคงอยู่ ต่อไป บริษัทเหล่านี้ได้ทำการปิดกั้นอย่างสมบูรณ์ต่อผู้ผลิตที่ผลิตงานออกมา โดยที่จัดสรรราคาไว้ตามแคตตาล็อกต่างๆ ซึ่งลักษณะนี้เป็นเหมือนกับการกระทำคุกคามรุนแรงต่อเสียงและสิทธิของผู้ บริโภค
กับการกระทำเยี่ยงนี้ เราจึงหวังว่าผู้บริโภคจะมีสิทธิได้รับความบันเทิงในรูปแบบที่หลากหลายได้ มากกว่านี้ โดยไม่จำกัด ซึ่งนี่เป็นเพียงการกระทำก้าวแรกที่จะจัดการกับอุตสาหกรรมบันเทิงออนไลน์ โปรดอย่าลืมว่าไม่มีอะไรฟรีหากคุณถูกกอบโกย เราหวังว่าภาคธุรกิจจะเห็นด้วยและสนับสนุนกับเรื่องนี้ ตัวแทนกรรมาธิการฯ กล่าว
ข้อมูลจาก
http://www.matichon.co.th/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น